วิธีเปลี่ยน Google Chrome bookmark เป็นไฟล์เว็บไซต์

ใครที่กำลังหาวิธีนำเอา Bookmark ที่เรา book เอาไว้ใน Google Chrome ออกมาเป็นไฟล์แต่ละไลฟ์เพื่อเก็บไว้เพื่อที่จะได้สะดวกในการใช้เป็นที่อ้างอิงหรือการจัดเก็บต่างๆ บทความนี้มีวิธีทำ สามารถทำตามได้แบบง่ายๆเลย

โดยเพื่อนๆสามารถทำได้ตามวิธีดังต่อไปนี้ โดยเราจะใช้ Bookmark ของ Google Chrome ที่เราจะ Export ออกมา แล้วนำเอาไปเข้า Internet Explorer (IE) ก็จะออกมาเป็นไฟล์ Bookmark แต่ละไฟล์ มาดูวิธีทำตามขั้นตอนกันดีกว่า

ก่อนอื่นให้เราไป Export Bookmark ของ Google Chrome โดยเลือกไปมุมขวาตรง จุดๆ สามจุด แล้วที่ Bookmark เลือก Bookmark manager

มุมขวาเหมือนกันเลือก Export bookmarks

เราก็จะได้ไฟล์ bookmark มา เป็นไฟล์นามสกุล .html

มาที่ IE

เลือกกดไปที่รูปดาวขวามมือ เลือกกดตรงสามเหลี่ยมข้างๆ Add to favorites แล้วกด Import and export…

กดเลือก Import from a file แล้วกด Next

กดเลือก Favorites แล้วกด Next

เลือกไฟล์ Bookmark html ที่เรา export ออกมาจาก Google Chrome แล้วกด Next

เลือกไฟล์ Favorites แล้วกด Next แล้วก็กด Finish

ทีนี้ IE ก็จะนำเอาไฟล์ Bookmark ของเราเอาไปแปลงเป็นไฟล์ Bookmark ของแต่ละเว็บไซต์เป็นไฟล์แล้ว โดยให้เราเข้าไปดูที่ C:\Users\xxx\Favorites โดย xxx เป็นชื่อ User ของเรา

จะเห็นได้ว่าเว็บไซต์แต่ละเว็บที่เรา Bookmark เอาไว้นั้นกลายไปเป็นไฟล์ย่อยๆแต่ละไฟล์แล้ว เมื่อเรา Double click ก็จะเข้าไปเว็บนั้นๆได้เลย ทำให้เราสะดวกในการจัดการจัดเก็บได้ดียิ่งขึ้น

ทำความรู้จัก AI/ML แบบสั้นๆ เข้าใจง่ายพร้อมตัวอย่าง

ยุค Digital แบบนี้แม้คนในวงการและนอกวงการ IT ต่างต้องเคยได้ยินคำว่า AI และ ML กันทั้งนั้น แต่ว่าสิ่งที่เราพูดๆ เรียกๆกันอยู่บ่อยๆ เราสามารถเข้าใจประโยชน์ของมันมากน้อยแค่ไหน วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังแบบง่ายๆ สั้นๆ และเข้าใจได้ไวพร้อมทั้งยกตัวอย่าง (Case study) ให้เห็นภาพ เพื่อนำเทคโนโลยีเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้และต่อยอดกันในอนาคต

ก่อนจะไปดูตัวอย่างเคสต่างๆ มารู้จัก 3 คำนี้กันก่อน

  1. Artificial Intelligence (AI): แปลตรงๆ คือ ปัญญาประดิษฐ์ แต่ถ้าให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ หุ่นยนต์ที่สามารถคิดเองได้ ตัดสินใจเองได้ คล้ายมนุษย์ที่เรียนรู้ด้วยตัวเอง
  2. Machine Learning (ML): แปลตรงๆ คือ การเรียนรู้ของเครื่องจักร แต่ถ้าให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ เปรียบเสมือนสมองของ AI ที่ใช้จดจำจากข้อมูลที่ใส่เข้าไป จากนั้นสามารถทำนายผลในอนาคต แบบที่ตัวอย่างมีรูปหมารูปแมวให้ ML เรียนและจำเยอะๆจากนั้นก็ให้ทายนั่นเอง (หรือจะพูดว่า ML คือ สิ่งที่เกิดในอดีตแล้วเรียนรู้ให้เกิดในอนาคต เช่น เราเอามาใช้กับธุรกิจธนาคาร มีลูกค้ามาขอสินเชื่อ ดังนั้น ML ก็จะประเมินได้เลยว่า คนอายุเท่านี้ อาชีพแบบนี้ เคยมาขอสินเชื่อแล้ว มีการผิดนัดชำระหนี้บ่อยๆ เราก็สามารถเอาข้อมูลในอดีตมาเรียนรู้ แล้วประเมินว่าจะปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้าเจ้านี้ดีไหม เป็นต้น)
  3. Deep Learning (DL): แปลตรงๆคือ การเรียนรู้เชิงลึก ถ้าให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ อัลกอริทึมของ ML ที่คิดในเรื่องที่ลึกยิ่งขึ้นคล้ายๆระบบประสาทของมนุษย์ (Neurons)

 

จาก 3 คำข้างต้นเป็นเทคโนโลยีที่เราสามารถนำมาใช้กับธุรกิจและอุตสาหกรรมอื่นๆ ได้หลากหลายและเป็นประโยชน์อย่างมากทั้งในปัจจุบันและอนาคต มาดูตัวอย่าง Case study ในแต่ละแผนกว่าจะสามารถนำ AI/ML มาใช้กับงานในธุรกิจได้อย่างไรบ้าง

  • Marketing ด้านการตลาด
  1. Personalized channel & content: เป็นการพยากรณ์ว่าการส่ง Marketing Campaign ไปในช่องทางไหนบ้างแล้วสำเร็จสูง เช่น ส่งทาง SMS, Email, LINE etc. จากนั้น ML จะเอาข้อมูลของคนที่สำเร็จมา Build Model ทำให้ส่งข้อมูลให้ถูกคนมากขึ้นแล้วประหยัดต้นทุนด้วย
  2. Cross sell targeting: ยกตัวอย่างสำหรับธุรกิจประกัน เช่นลูกค้ามีประกันสุขภาพอยู่แล้วและแน่นอนว่าในอนาคตอาจจะมีโอกาสในการซื้อประกันอื่นๆเพิ่ม การนำ ML มาใช้จะช่วยให้เห็นแนวโน้มว่าลูกค้ามีประกันสุขภาพ อาจจะให้แนะนำเพิ่มโอกาสในประกันชนิดอื่นแทน เช่น ประกันอุบัติเหตุ มากกว่าประกันสุขภาพ เป็นต้น
  • Financial ด้านการเงิน
  1. Credit Scoring and Debt Collection: เป็นการประเมินการให้คะแนนและการเก็บหนี้ เช่นธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ ลูกค้าคนไหนมีโอกาสเป็นหนี้เสีย จะได้ให้วางเงินดาวน์เยอะๆ เพื่อป้องกันความเสี่ยง เชื่อไหมว่าการนำ ML มาใช้ทำให้ผลลัพธ์นี้ประหยัดเงินได้เป็นหลักล้านเลยทีเดียว
  2. Screening customer: เช่นธุรกิจธนาคาร เราเป็นธนาคารแล้วมีลูกค้าสนใจสินเชื่อเยอะมากๆ แต่เรามีคนรับมือน้อย เราสามารถ ทำ Probability ความน่าจะเป็นว่าลูกค้าคนนี้มีโอกาสเยอะนะที่จะเป็นลูกค้าเราที่จะซื้อประกัน หรือกู้เงิน เป็นต้น
  • Industrial factory
  1. Demand forecasting: เราสามารถจัดการวัตถุดิบหรือของใน Stock แล้วประเมินการสั่งซื้อได้ เช่นธุรกิจผลิตรถยนต์ สามารถจัดการอะไหล่รถยนต์ โดยการนำข้อมูลเก่ามาทำการ Predict เราจะรู้ Demand ว่าช่วงไหน เวลาไหนควร สั่งของมาเตรียมไว้
  2. Predictive maintenance: กรณีที่เครื่องจักรในโรงงานเสีย แล้วในอนาคตเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเสีย เราสามารถนำ AI/MLมาใช้เพื่อแจ้งล่วงหน้าหรือมีส่งสัญญาณก่อนล่วงหน้า เพื่อที่เราจะได้วางแผนปิดไลน์ผลิตตและป้องกันความเสี่ยงรวมถึงลดการคอขวดด้วย
  3. Repurchase คือการซื้อซ้ำ ในกรณีเจ้าของผู้ผลิตรถยนต์นำ AI/ML มาประยุกต์โดยนำข้อมูลลูกค้ามาใช้ เช่น ลูกค้าเจ้านี้ซื้อรถมาเมื่อไหร่ เข้าศูนย์ซ่อมอย่างไงบ้าง ถ้าไมล์เยอะหรือซ่อมบ่อย แสดงว่าอาจจะมีโอกาสซื้อรถใหม่เร็วๆนี้ได้ ถ้าเรารู้ก่อนว่าลูกค้ามีโอกาสเปลี่ยนรถใหม่ จะได้ติดต่อลูกค้าเจ้านั้นไป และทำ Promotion ทางการตลาดต่อไปให้เกิดการซื้อซ้ำได้ เป็นต้น

รวมเบอร์โทรทุกธนาคารในประเทศไทย


ธนาคารกรุงเทพ 1333
ธนาคารกรุงไทย 02-111-1111
ธนาคารกรุงศรี 1572
ธนาคารกสิกรไทย 02-888-8888
ธนาคารเกียรตินาคินภัทร 02-165-5555
ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย 02-626-7777
ธนาคารทหารไทยธนชาต 1428
ธนาคารทิสโก้ 02-633-6000
ธนาคารไทยพาณิชย์ 02-777-7777
ธนาคารยูโอบี 02-285-1555
ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ 1327
ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด 02-724-4000
ธนาคารไอซีบีซี 02-629-5588
ธนาคารไทยเครดิต 02-697-5454
ธนาคารแห่งประเทศจีน 02-679-5566
ธนาคารซิตี้แบงก์ 1588
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย 1357
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 02-555-0555
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย 02-271-3700
ธนาคารออมสิน 1115
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 02-645-9000
ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย 1302
บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม 02-890-9999

อัดเสียงผ่าน Google Chrome

สำหรับใครที่กำลังหาวิธีอัดเสียงที่เราเปิดจากเว็บ บทความนี้ Extension ของ Google Chrome มาแนะนำ Extension ที่สามารถใช้อัดเสียงในเว็บแล้วแปลงออกมาเป็นไฟล์ mp3 ก็มีชื่อว่า Chrome Audio Capture สามารถโหลดได้ที่
https://chrome.google.com/webstore/detail/chrome-audio-capture/kfokdmfpdnokpmpbjhjbcabgligoelgp/related

เมื่อเราได้ Chrome Audio Capture มาแล้วก็จะเห็นรูปปุ่มแดงๆด้านขวามือของ Google Chrome เมื่อเรากดก็จะมีให้เราเลือกว่าจะให้เริ่มบันทึกเสียง Start Capture แล้วมี Option ให้เลือกปรับแต่ง

หน้า Option ก็จะมีให้เลือกว่าจะให้บันทึกได้นานเท่าไร โดยค่าสูงสุดจะอยู่ที่ 20 นาที และสามารถเลือกประเภทของไฟล์ว่าเป็น mp3 หรือ wav รวมไปถึงคุณภาพของเสียงได้ด้วย

เมื่อกด Start Capture ก็จะมีหน้าตาตามรูปด้านล่าง เมื่อบันทึกเสร็จก็กด Save Capture

ไฟล์ที่ได้ก็จะเป็น mp3 ทดลองแล้วสามารถใช้งานได้ดี

ใช้ Google Street View นั้ง Time Machine

รู้ไหมว่าเราสามารถใช้ Google Street View เอามาใช้เป็น Time Machine นั้งเวลาย้อนหลังกลับไปได้ สามารถดูความเปลี่ยนแปลงของพื้นที่แต่ที่ว่าแต่ละปีแต่ละช่วงเวลาเปลี่ยนอะไรไปบ้างมีอะไรเกิดขึ้นมาบ้าง

วิธีใช้งานก็ง่ายๆ โดยเราเข้าไปที่ Google Maps เสร็จแล้วกดค้นหาพื้นที่ที่เราต้องการดูแล้วก็ลากรูปคนลงไปเพื่อเข้าไป Google Street View

หลังจากนั้นก็สังเกตไปที่มุมซ้ายมือบน จะเห็นข้อความที่เขียนว่า Street View เมื่อเรากดก็จะเห็นดังรูปข้างล่าง เราสามารถเลือกได้ว่าจะให้แสดงภาพ Google Map

ตัวอย่างที่ห้าแยกพ่อขุน ที่เชียงราย มาดูกันว่ามีอะไรต่างไปบ้างย้อนหลัง 10 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2021 ถึง 2021

เมษา 2012

มิถุนายน 2017

มิถุนายน 2021

นอกจากนี้เรายังสามารถแชร์ไปให้เพื่อนๆของเราหรือแนบ Embed ลงไปในเว็บไซต์ต่างๆได้ โดยคลิกไปที่ แชร์หรือฝังรูปภาพ

เว็บไซต์แนะนำสำหรับคนที่ใช้ Emoji

สำหรับใครที่กำลังมองหา อิโมจิ Emoji เอามาใช้งานว่ามี Emoji อะไรบ้างหน้าตาเป็นอย่างไร บทความนี้จะมาแนะนำเว็บไซต์ที่รวบรวม Emoji ไว้ทั้งหมด
เว็บไซต์ที่ว่านั้นก็คือ https://emojipedia.org/ ซึ่ง Emojipedia นั้นเปรียบเสมือนเว็บไซต์ Wikipedia ของโลก Emoji เลยก็ว่าได้ โดยเราสามารถค้นหา Emoji ที่จะเอามาใช้งานพร้อมกับบอกถึงความหมายรายละเอียดต่างๆและแสดงผลให้เห็นว่าถ้าเรามีการใช้งานในแต่ละอุปกรณ์ แต่ละ Browser จะแสดงผลของ Emoji ออกมาเป็นอย่างไร รวมไปถึง Trend การใช้งานของ Emoji นั้นๆว่ากำลังนิยมใช้งานกันอยู่หรือเปล่า ยกตัวอย่างเช่นถ้าเรากำลังหา Emoji ของ Lemon https://emojipedia.org/lemon/

สามารถ copy เอาไปใช้งานได้โดยคลิกที่คำว่า Copy

การแสดงผลในแต่ละค่ายแต่ละอุปกรณ์ ต่างๆ

สามารถเช็ค Trend การใช้งานของ Emoji นั้นๆทั่วโลกจาก Google Trend

และนี้ก็เป็นเว็บไซต์ที่อยากแนะนำสำหรับคนที่ใช้ Emoji จำเป็นต้องเข้าอย่างมากจ้า

วิธีเล่นวิดีโอ YouTube วนลูปอัตโนมัติในมือถือ

เพื่อนๆรู้ไหมว่าตอนนี้ YouTube app รองรับการเล่นวิดีโอแบบวนลูป(เล่นวนไปเรื่อยๆ) แบบอัตโนมัติในมือถือแล้วนะ เหมาะสำหรับใช้ฟังเพลงหรือเปิดฟังวิดิโอซ้ำๆอย่างมาก มาดูวิธีการทำกันดีกว่า

ง่ายๆเลยก่อนอื่นก็เปิดวิดิโอขึ้นมา แล้วเลือกไปที่ Auto play ด้านบนขวามือ ให้เปิด On ไว้

เสร็จแล้วกดไปที่ จุดๆ3จุด ขวามือสุดด้านบน setting แล้วเลือก Loop video เป็น On

แค่นี้ก็ทำให้ YouTube เล่นวิดิโอวนไปๆแบบอัตโนมัติแล้วลองใช้งานกันดูได้

เช็คเบอร์มือถือตัวเอง ทำยังไง กดเบอร์อะไร

ถ้าเราจะเช็คว่าเช็คเบอร์มือถือของตัวเองคือเบอร์อะไร จะต้องทำยังไง กดเบอร์อะไรกันนะ

โดยทุกเครือข่ายมือถือสามารถเช็คเบอร์ได้ฟรีไม่มีค่าบริการ ค่าใช้จ่ายใดๆ สามารถเช็คได้ดังนี้


วิธีเช็คเบอร์ TrueMove H (ทรูมูฟ เอช)
กด *933# แล้วโทรออก
เสร็จแล้วหลังจากนั้นรอรับข้อความแจ้งหมายเลขเบอร์โทร



วิธีเช็คเบอร์ตัวเองของ AIS (เอไอเอส)
กด *545# แล้วโทรออก
เสร็จแล้วหลังจากนั้นรอรับข้อความแจ้งหมายเลขเบอร์โทร



วิธีเช็คเบอร์ตัวเองของ Dtac (ดีแทค)
กด *102# แล้วโทรออก
เสร็จแล้วหลังจากนั้นรอรับข้อความแจ้งหมายเลขเบอร์โทร



วิธีเช็คเบอร์ตัวเองของ my By CAT (มาย บาย แคท)
กด *99# แล้วโทรออก
เสร็จแล้วหลังจากนั้นรอรับข้อความแจ้งหมายเลขเบอร์โทร



วิธีเช็คเบอร์ตัวเองของ TOT Mobile
กด *153# แล้วโทรออก จากนั้น กด 2 หรือ 3 แล้ว กดส่ง
เสร็จแล้วหลังจากนั้นรอรับข้อความแจ้งหมายเลขเบอร์โทร

วิธีการใช้ pip ใน Python

pip เป็นคำสั่งที่ใช้สำหรับ Package management ของ python ซึ่งจะมีคำสั่งที่เราใช้งานกันหลักๆซึ่งเราควรจะเรียนรู้และจำกันกันไว้ดังนี้


1. pip install
การใช้คำสั่ง pip ในการติดตั้ง โดยสามารถตรวจสอบ package ได้ที่ https://pypi.org/
ตัวอย่างเช่น ถ้าเราจะติดตั้ง opencv ลงไปใน Python ก็สามารถใช้คำสั่งว่า pip install opencv-python
ซึ่งสามารถค้นหา package ได้ที่ https://pypi.org/project/opencv-python/ ก็จะเจอ opencv พร้อมตัวอย่างคำสั่งและชื่อ package ที่เราต้องพิมพ์ลงไป

หรือถ้าเครื่องที่จะติดตั้งไม่มี internet ก็ให้เราไป Download package มาในหน้า Download file ของ https://pypi.org/project/opencv-python/#files ซึ่งจะได้เป็นไฟล์นามสกุล .whl (เลือกให้ถูกเวอร์ชั่นและ OS ของเราด้วยนะ)

ในที่นี้ จะติดตั้งลงใน python 3.8 เครื่องที่ลงเป็น Windows 64bit ก็จะได้ไฟล์ opencv_python-4.5.3.56-cp38-cp38-win_amd64.whl
เวลาติดตั้งก็ใช้คำสั่งว่า pip install ชื่อ package.whl ก็จะได้เป็น

pip install opencv_python-4.5.3.56-cp38-cp38-win_amd64.whl

หรือถ้าจะระบุที่อยู่ของไฟล์ก็ได้ เช่น ในตัวอย่างนี้วางไฟล์ไว้ที่ Desktop/now

pip install C:\Users\beer\Desktop\now\opencv_python-4.5.3.56-cp38-cp38-win_amd64.whl


2. pip install -r requirements.txt
คำสั่งนี้ใช้ในกรณี ที่ต้องการที่จะติดตั้ง Package หลายตัวๆ โดยได้ถูกกำหนดไว้ในไฟล์ requirements.txt แล้ว

ก็ใช้คำสั่งว่า

pip install -r requirements.txt

โดยในไฟล์ requirements.txt นั้นเราสามารถกำหนดไว้ได้หลายแบบเช่น

2.1. requirements.txt แบบไม่ระบุเวอร์ชั่น เราก็จะได้เวอร์ชั่นล่าสุด ณ ขณะนั้นมาใช้งาน ตัวอย่างเช่น

pyserial
xlsxwriter
xlrd
playsound
numpy
opencv-python

2.2. requirements.txt ระบุ เวอร์ชั่นที่ใช้กันแบบเจาะจงก็ให้ใช้เครื่องหมาย == แล้วตามด้วยหมายเลขเวอร์ชั่นที่ใช้งาน หรือถ้าไม่เอาเวอร์ชั่นนั้นๆก็ใช้เครื่องหมาย != ตัวอย่างเช่น

pyserial==3.4
xlsxwriter!=1.3.7
xlrd!=0.9.4
playsound==1.2.2
numpy==1.21.1
opencv-python==4.5.3.56

2.3. requirements.txt ระบุต้องมากกว่าหรือเท่ากับเวอร์ชั่นที่กำหนด ก็ให้ใช้ >= หรือ หากจะเลือกเวอร์ชั่นที่ compatible ก็ใช้ ~= ตัวอย่างเช่น

pyserial>=3.4
xlsxwriter~=1.3   #หมายถึง compatible กับ 1.3 เช่น 1.3.1 หรือ 1.3.2 ...
xlrd>=0.9.4
playsound>=1.2.2
numpy>=1.21.1
opencv-python>=4.5.3.56

โดยทั้งหมดสามารถนำมาใช้ระบุผสมกันได้ในไฟล์ requirements.txt ไฟล์เดียวกัน


3. pip uninstall
หากต้องการถอนการติดตั้ง Package ออกจาก Python ก็สามารถใช้คำสั่ง pip uninstall โดยใช้คำสั่งว่า

pip uninstall ชื่อPackage

ตัวอย่างถ้าต้องการถอนการติดตั้ง Package opencv

pip uninstall opencv-python

4. pip show เป็นคำสั่งที่เอาไว้แสดงเวอร์ชั่นของ Package ที่ได้ติดตั้งอยู่ รวมไปถึงข้อมูล license ที่ข้อมูลของผู้พัฒนาทั้งหมด โดยใช้คำสั่งว่า

pip show ชื่อPackage

ตัวอย่างเช่น

$pip show opencv-python
PS C:\Users\beer> pip show opencv-python
Name: opencv-python
Version: 4.5.3.56
Summary: Wrapper package for OpenCV python bindings.
Home-page: https://github.com/skvark/opencv-python
Author:
Author-email:
License: MIT
Location: c:\users\beer\appdata\local\programs\python\python39\lib\site-packages
Requires: numpy
Required-by:

5. pip freeze เป็นคำสั่งที่เอาไว้แสดงชื่อของ Package ที่ได้ติดตั้งทั้งหมด ซึ่งสามารถนำเอาไปใช้สร้างไฟล์ requirements.txt ได้
ตัวอย่างเช่น

$pip freeze
agate==1.6.0
agate-dbf==0.2.0
agate-excel==0.2.1
agate-sql==0.5.2

สามารถสั่งให้สร้างไฟล์ requirements.txt ขึ้นมาได้โดยใช้คำสั่งว่า

$pip freeze > requirements.txt

และนี้ก็เป็นคำสั่งหลักๆของ python pip ที่เราควรจะรู้กันไว้นะ ส่วนถ้าอยากรู้คำสั่งอื่นๆอีกก็สามารถดูได้เพิ่มเติมที่ pip –help