ตั้งเวลา Restart อัตโนมัติ

วิธีตั้งเวลาให้คอมพิวเตอร์ของเรา รีสตาร์ท Restart อัตโนมัติ สามารถทำได้โดยใช้ Batch command

ก่อนอื่นให้เราเป็น command line ขึ้นมา โดยไปที่ start แล้วพิมพ์คำว่า cmd แล้วก็จะเห็น โปรแกรม
Cmd ให้เราทำการคลิกขวาแล้วเลือก run as administrator
cmd-batch

ถ้าเป็น Windows XP ให้เราทำการพิมพ์ shutdown –r –t XX แล้วกด Enter โดย XX ก็คือเวลาที่เราอยากจะให้คอมพิวเตอร์รีสตาร์ทเครื่องซึ่งเป็นหน่วยวินาทีนะ เช่น 1 ชั่วโมงก็คือ 3600 วินาที (ถ้าอยากให้ คอมพิวเตอร์รีสตาร์ท ทันทีก็ใส่ค่าเป็น 0)
restart-timer-cmd

 

แต่ถ้าเป็น Windows ใหม่ๆเช่น 7 ขึ้นไป 10 หรือ 11 ให้เราทำการพิมพ์ shutdown /r /t XX แล้วกด Enter โดย XX ก็คือเวลาที่เราอยากจะให้คอมพิวเตอร์รีสตาร์ทเครื่องซึ่งเป็นหน่วยวินาทีนะ เช่น 1 ชั่วโมงก็คือ 3600 วินาที (ถ้าอยากให้ คอมพิวเตอร์รีสตาร์ท ทันทีก็ใส่ค่าเป็น 0)

Windows จะขึ้นบอกที่ด้านล่างซ้ายมือของหน้าจอว่า จะรีสตาร์ทเครื่องตอนเวลาไหน
shutdown-dialog

ตั้งเวลา shutdown อัตโนมัติ

วิธีตั้งเวลาให้คอมพิวเตอร์ของเรา shutdown ดับเครื่องอัตโนมัติ สามารถทำได้โดยใช้ Batch command

ก่อนอื่นให้เราเป็น command line ขึ้นมา โดยไปที่ start แล้วพิมพ์คำว่า cmd แล้วก็จะเห็น โปรแกรม
Cmd ให้เราทำการคลิกขวาแล้วเลือก run as administrator
cmd-batch

ถ้าเป็น Windows XP ให้เราทำการพิมพ์ shutdown –s –t XX แล้วกด Enter โดย XX ก็คือเวลาที่เราอยากจะให้คอมพิวเตอร์ดับเครื่องซึ่งเป็นหน่วยวินาทีนะ เช่น 1 ชั่วโมงก็คือ 3600 วินาที (ถ้าอยากให้ คอมพิวเตอร์ดับเครื่อง ทันทีก็ใส่ค่าเป็น 0)
windows-shutdown-auto

 

แต่ถ้าเป็น Windows ใหม่ๆเช่น 7 ขึ้นไป 10 หรือ 11 ให้เราทำการพิมพ์ shutdown /s /t XX แล้วกด Enter โดย XX ก็คือเวลาที่เราอยากจะให้คอมพิวเตอร์รีสตาร์ทเครื่องซึ่งเป็นหน่วยวินาทีนะ เช่น 1 ชั่วโมงก็คือ 3600 วินาที (ถ้าอยากให้ คอมพิวเตอร์ดับเครื่อง ทันทีก็ใส่ค่าเป็น 0)

Windows จะขึ้นบอกที่ด้านล่างซ้ายมือของหน้าจอว่า จะปิดเครื่องตอนเวลาไหน
shutdown-dialog

วิธีติดตั้ง Beautiful Soup

beautifulsoup

วิธีติดตั้ง Beautiful Soup สามารถติดตั้งได้ 2 วิธี ก็คือ ติดตั้งโดยใช้ Pip หรือ ติดตั้งแบบ manual

วิธีติดตั้ง โดย pip ก็ทำง่ายๆเลยก็คือ เปิด cmd คืนมาแล้วพิมพ์ว่า
$ pip install beautifulsoup4

pip-beautiful-soup

ส่วนวิธีติดตั้งแบบ manual เหมาะสำหรับนำไปใช้กับเครื่องที่ไม่ได้ต่อเน็ต (แต่ต้องโหลด beautiful soup มาก่อนนะ)
สามารถดาวโหลด beautiful soup ได้ที่ https://www.crummy.com/software/BeautifulSoup/bs4/download/4.0/
พอโหลดมาเสร็จก็แตกไฟล์ไว้แล้วใช้ cmd เข้าไปที่โฟรเดอร์นั้น แล้วพิมพ์
$ setup.py install

install-after-you-download-beautifulsoup

และนี้ก็เป็น 2 วิธี ในการลง beautiful soup เพื่อนำมาใช้งานกับ python ได้แบบง่ายๆจ้า

เครื่องหมายถูก กับ กากบาท ใน Excel และ Word

check-1292819_960_720

มีใครหาเครื่องหมายถูก และ กากบาท ใน word กับ excel ไม่เจอกันบ้าง ในบทความนี้จะมาสอนวิธีพิมพ์เครื่องหมายถูก และ กากบาท ใน Excel หรือ word ซึ่งสามารถทำได้โดยใช้ Font Shortcuts

วิธีการพิมพ์เครื่องหมายถูก ให้พิมพ์ตัว P (ตัวพิมพ์ใหญ่ P หรือ กด Shift + P) แล้วเปลี่ยน font เป็น Windings 2

ส่วนวิธีการพิมพ์เครื่องหมายกากบาท ให้พิมพ์ตัว O (ตัวพิมพ์ใหญ่ O หรือ กด Shift + O) แล้วเปลี่ยน font เป็น Windings 2

นอกจากนี้ยังมีเครื่องหมายถูก และ กากบาท หลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้ ลองพิมพ์ตามรูปด้านล่างและเปลี่ยนfont เป็น Windings 2 และ Windings ดูกันนะ

เครื่องหมายถูก-กากบาท1

เครื่องหมายถูก-กากบาท2

ใช้ตัวย่อ Bit และ Byte ให้ถูกต้องกันเถอะ

4525331436_4211f007c5_b

หลายคนเขียนตัวย่อของ Bit และ Byte ผิดกัน ใช้กันมั่วไปหมด ทำให้บางคนสับสนหรือนำไปตีความผิดกันได้เลย โดยในบทความนี้จะมาอธิบาย Bit และ Byte ว่าคืออะไร และใช้ตัวย่อยังไงให้ถูกต้อง

คอมพิวเตอร์นั้นทำงานได้จากพื้นฐานสัณญาณไฟฟ้าในระบบ electronic นั้นก็คือ การ On และ Off หรือที่เราเรียกกันแทนว่า 1(แทนการเปิดสวิตช์) และ 0 (แทนการปิดสวิตช์) โดยแทนการเปิดปิดของ นี้ว่า Bit ใน ระบบเลขฐาน 2 นั้นเอง
โดย 8 bit จะเทียบเท่ากับ 1 Bytes

เราสามารถเขียนตัวย่อของ Bit ว่า b (ตัว b ตัวพิมพ์เล็ก)
เราสามารถเขียนตัวย่อของ Byte ว่า B (ตัว B ตัวพิมพ์ใหญ่)

โดยความเร็วของการส่งข้อมูลจะนิยมบอกเป็น Bit เช่น 128kb/s จะเห็นว่าตัวเลขที่บอกค่าความเร็วนั้นมีจำนวนที่ดูมากกว่าบอกเป็นแบบ byte ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกว่าเลขเยอะ มีความเร็วกว่านั้นเอง
ขนาดไฟล์ ส่วนใหญ่จะบอกเป็น Byte (เช่นไฟล์เพลง mp3 ขนาด 4MB)แต่ก็มีบางครั้งหากพูดถึงไฟล์ที่มีขนาดเล็กเช่นไฟล์ภาพที่ใช้งานบนเว็บ หรือ ไฟล์ข้อมูล text มักจะพูดกันในระดับ Bit ( เช่นรูปภาพ 100kb)

เวลาเราจะบอก bit ก็ควรที่จะใช้ ตัวย่อว่า ตัว b ตัวพิมพ์เล็ก ส่วนถ้าจะบอกเป็น byte ก็ควรที่จะใช้ ตัวย่อตัว B ตัวพิมพ์ใหญ่ อย่าลืมนำไปใช้กันให้ถูกนะ ไม่งั้นงงกันไปหมด ใช้ให้ถูกต้องกันด้วยนะทุกคน

วิธีการนำข้อมูล ใน Excel จาก Cell อื่นๆ มาเรียงอยู่ใน Cell เดียวกัน

ในบทความนี้จะมาสอนวิธีการนำข้อมูลจาก Cell อื่นๆ มาเรียงอยู่ ใน Cell เดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเรามีข้อมูล อยู่ใน Cell A1 , B1, C1และ D1 แล้วเราต้องการนำข้อมูลมาเรียงต่อกัน ใน Cell F1 สามารถ ทำได้ โดยการ พิมพ์สูตรเข้าไปใน Cell F1 ว่า =””&A1&””&B1&””&C1&””&D1&”” ก็จะได้ข้อมูลตามภาพ
combine value 1

หากเราอยากให้ข้อมูลนั้นดูง่ายขึ้นโดยการแบ่งด้วยช่องว่าง ก็สามารถทำได้โดยการพิมพ์สูตรลงไปใน F1 ว่า =””&A1&” “&B1&” “&C1&” “&D1&”” ก็จะได้ดังภาพ
combine value 2

และนี้ก็เป็นวิธีการนำข้อมูล ใน Excel จาก Cell อื่นๆ มาเรียงอยู่ใน Cell เดียวกันจ้า

วิธี ใส่ข้อมูลใน Excel ผสมระหว่าง ตัวหนังสือ และ ตัวเลข ลงใน Cell เดียวกัน

มีใครกำลังหาวิธี นำข้อมูลตัวเลขที่อยู่ใน cell อื่น มาใส่ ใน Cell ที่มี ข้อมูลเป็น ตัวอักษร Text กันอยู่ไหม รู้ไหมว่าใน Excel นั้น ทำได้

ตัวอย่างเช่น เรามีข้อมูลอยู่ใน Cell A1 เป็นตัวเลข แล้วต้องการนำตัวเลขนั้นมาแสดงผลที่ Cell A2 ซึ่งเป็นข้อความ ซึ่งสามารถทำได้โดย ใส่สูตร จากตัวอย่าง =”The value is “&A1
text in value excel-1

จะเห็นว่า “&A1 นั้นเป็นตัวบอกว่าเราจะเอาข้อมูลใน A1 มาแสดง แล้ว

โดยข้อมูลใน Cell A1 ไม่จำเป็นต้องเป็น ตัวเลขอย่างเดียว จะเป็นอะไรก็ได้ ตามรูป
text in value excel-2

อีกแบบหนึ่งก็คือ หากเราจะเอา ข้อมูลจากทั้ง 2 cell มารวมกันทั้ง ตัวอักษร และตัวเลข ก็สามารถทำได้เช่นกัน สมมตเราจะเอามาจาก Cell A1 และ A2 มารวมกันที่ A3 ก็ใส่สูตรว่า =””&A2&””&A1&””
text in value excel-3

เพียงแค่นี้เราก็สามารถนำข้อมูลที่มีทั้ง ตัวอักษร และ ตัวเลขมาแสดงใน Cell เดียวกันได้แล้ว

ปุ่ม key ลัด Alt ใน Microsoft Word และ Excel

เพื่อนๆ ทราบไหมว่า โปรแกรม Office พวก Word หรือ Excel นั้นมี key ลัดให้เรากด ว่าแต่ มีkey ลัดให้เรากดอะไรได้บ้างนะ
ถ้าอยากรู้ให้เพื่อนๆลองเปิดโปรแกรม Word หรือ Excel ขึ้นมาแล้วลองกดปุ่ม Alt ที่ keyboard แล้วเราเราก็จะเห็นตัวอักษรหรือตัวเลขตามภาพ

Word กด Alt เพื่อเช็ค shortcut key

Excel กด Alt เพื่อเช็ค shortcut key

ซึ่งหมายถึง key ลัด ที่เวลาใช้งานต้องกดปุ่มใช้งานร่วมกับปุ่ม Alt นั้นเอง ตัวอย่างเช่นการกด save งาน ก็สามารถกดปุ่ม Alt+1 เพื่อ save งานได้
และนี้ก็เป็นเทคนิคการใช้งานเล็กๆน้อยๆสำหรับคนที่ใช้งานโปรแกรม Microsoft Office เช่น Word หรือ Excel จ้า

แนะนำเครื่องมือเช็คสี ดูดสี Color detection tool

ในบทความนี้จะมาแนะนำโปรแกรมเช็คสีต่างๆ หรือหลายๆคนจะเรียกว่าโปรแกรมดูดสี
ซึ่งมีทั้งบน Browser, และโปรแกรมบน PC ทั้งหมดที่จะแนะนำฟรีนะสามารถหามาใช้งานกันได้

มาเริ่มกันที่ โปรแกรมเช็คสีที่ติดตั้งบน PC
ก็ต้อง ใช้โปรแกรมนี้เลย Instant Eyedropper

instant-eyedropper-logo

http://instant-eyedropper.com/

โปรแกรมตัวนี้เราสามารถเช็คสีจากโปรแกรมหรือวัตถุต่างๆที่เราเห็นใน desktop เราทั้งหมดได้เลย นี้เลย โดย Instant Eyedropper จะสามารถ แปลงสีออกมาได้หลากหลาย format ทั้ง HTML หรือ RGB

Instant Eyedropper-setting

ส่วนวีใช้งานก็ง่ายมากๆเพียงแค่คลิกที่ตัวโปรแกรมที่ทำงานอยู่ที่ Task bar ด้านล่างขวา แล้วเลื่อนนไปที่ วัตถุที่เราอยากจะเช็คสี แค่นี้โปรแกรมก็จะเก็บค่าสีให้เรา ลองคลิก Paste เราก็จะได้โค้ดสีที่เราเลือกแล้ว

instant-eyedropper-1

instant-eyedropper2

ถัดมาหากใครใช้งานเพื่อที่จะเช็คค่าสีจากเว็บไซท์ก็แนะนำให้ใช้งาน add-on หรือ extension ของ Browser ดีกว่า เนื่องจากสะดวกต่อการใช้งานโดยไม่ต้องลงโปรแกรมให้ยุ่งยาก
โดยตัวที่จะมาแนะนำนี้ก็มีชื่อว่า Colorzilla มีรองรับสำหรับ Browser ดังๆทั้ง 2 ตัวนั้นก็คือ

colorzilla-firefox2

Colorzilla Google Chrome extension
https://chrome.google.com/webstore/detail/colorzilla/bhlhnicpbhignbdhedgjhgdocnmhomnp?hl=en-US

Colorzilla firefox add-on
https://addons.mozilla.org/en-US/firefox/addon/colorzilla/?src=ss

ส่วนวิธีใช้งาน ก็ขอสาธิตสำหรับในส่วนของ firefox ละกันนะ
หลังจากเราลง Colorzilla firefox add-on เสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะเห็นสัณญลักรณ์เป็นรูปตัวดูด หรือหลอดหยด dropper ด้านขวามือบน ก็กดแล้ว เลือนไปหาจุดหรือวัตถุต่างๆบนเว็บไซท์ที่เราจะทำการเช็คสีได้เลย

colorzilla-firefox1

สำหรับคนที่ออกแบบเว็บไซท์หรือทำเกี่ยวกับกราฟฟิคก็คงจะได้ใช้งานกันอย่างแน่นอน ลองทดลองใช้งานกันได้ มีประโยชน์จริงๆ